บีเวอร์
From Wikipedia, the free encyclopedia
บีเวอร์ (อังกฤษ: beaver) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมฟันแทะในเขตฮอลอาร์กติก มีสองชนิดที่เหลือรอดอยู่คือ พันธุ์ยูเรเชีย (C. fiber) กับ พันธุ์อเมริกาเหนือ (C. canadensis) บีเวอร์เป็นสัตว์ฟันแทะที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากแคพิบารา มีศีรษะใหญ่ ร่างกายที่แข็งแรง ฟันหน้าคล้ายสิ่ว ขนสีน้ำตาลหรือเทา เท้าหน้าคล้ายมือ เท้าหลังมีลักษณะแบนและเป็นผังพืด มีหางเป็นเกล็ด พันธุ์ยูเรเชียมีกระโหลกที่ยาวกว่า โพร่งจมูกในกระโหลกมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยม หางแคบและขนสีอ่อนกว่า สามารถพบได้ในแหล่งน้ำจืดทั่วไป เช่น แม่น้ำ ทะเลสาบ ลำธารและสระน้ำ กินพืช เปลือกไม้ พืชน้ำและกกเป็นอาหาร
บีเวอร์ ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: 24–0Ma ตั้งแต่ สมัยไมโอซีน ถึงปัจจุบัน | |
---|---|
บีเวอร์สายพันธุ์อเมริกา (Castor canadensis) | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | สัตว์ |
ไฟลัม: | มีแกนสันหลัง |
ชั้น: | เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม |
อันดับ: | สัตว์ฟันแทะ |
วงศ์: | Castoridae |
สกุล: | Castor |
สปีชีส์ | |
บีเวอร์ยูเรเซีย | |
พื้นที่กระจายพันธุ์ใน ค.ศ. 2016 พันธุ์ยูเรเซีย (สีแดง) พันธุ์อเมริกาเหนือ (สีฟ้า) |
บีเวอร์สร้างเขื่อนและที่อยู่อาศัยโดยใช้กิ่งไม้ หินและโคลน พวกมันตัดต้นไม้เพื่อใช้เป็นวัสดุก่อสร้าง เขื่อนที่กั้นน้ำทำหน้าที่เป็นที่อาศัยและที่หลบซ่อน โครงสร้างพวกนี้ทำให้เกิดเป็นที่ชุ่มน้ำที่เอื้อเฟื้อและส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตอื่นในระบบนิเวศ ทำให้บีเวอร์ถูกจัดอยู่ในสิ่งมีชีวิตหลัก ตัวผู้และตัวเมียโตเต็มวัยจะอาศัยเป็นคู่เดียวร่วมกับลูกของพวกมัน เมื่อลูกพวกมันโตพอ มันจะช่วยซ่อมเขื่อนและที่อยู่อาศัยรวมทั้งยังช่วยเลี้ยงดูน้อง ๆ ที่พึ่งเกิดด้วย บีเวอร์ทำเครื่องหมายอาณาเขตโดยใช้ ร่องรอยเนินโคลน เศษซากและคาสโตเรียม สารคล้ายปัสสาวะที่ผลิตจากต่อมข้างก้น บีเวอร์สามารถจำแนกญาติโดยสารจากต่อมข้างก้น
ในอดีตมีการล่าบีเวอร์เพื่อเอา ขน เนื้อและคาสโตเรียม คาสโตเรียมสามารถใช้เพื่อการแพทย์ ทำน้ำหอมและปรุงอาหาร หนังและขนของมันเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในตลาดขนสัตว์ มีการล่าบีเวอร์เป็นจำนวนมาก จนมีการคุ้มครองในช่วงศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ทำให้ประชากรพวกมันเพิ่มมากขึ้นจนบัญชีแดงไอยูซีเอ็นระบุให้มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ต่ำ ในวัฒนธรรมถือว่าบีเวอร์เป็นตัวแทนของ ความขยันขันแข็งอุตสาหะ และเป็นสัตว์ประจำชาติของแคนาดา