ผู้ใช้:Nattawan s/กระบะทราย38
From Wikipedia, the free encyclopedia
ฟินเซนต์ วิลเลิม ฟัน โคค[1] (ดัตช์: Vincent Willem van Gogh (วิธีใช้·ข้อมูล) ) (ภาษาดัตช์: [ˈvɪnsɛnt ˈʋɪləm vɑn ˈɣɔχ] ( ฟังเสียง);[note 1] หรือที่ในไทยรู้จักในชื่อ วินเซนต์ แวน โก๊ะ (30 มีนาคม ค.ศ. 1853 — 29 กรกฎาคม ค.ศ. 1890) เป็นจิตรกรชาวดัตช์ในลัทธิประทับใจยุคหลัง (post-impressionism) ที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อศิลปะสมัยใหม่ด้วยผลงานที่โดดเด่นด้านความสวยงามในรูปแบบการวาดลายเส้นแบบหยาบ แต่มีสีสันสดใส และมีการแสดงออกทางอารมณ์อย่างตรงไปตรงมา ทำให้มีอิทธิพลต่องานศิลปะในสมัยศตวรรณที่ 20 เป็นอย่างมาก เขามีอาการของโรควิตกกังวลและต้องต่อสู้กับอาการป่วยทางจิตมากขึ้นเรื่อย ๆ ในบั้นปลายชีวิต[2][3] จนกระทั่งเสียชีวิตจากบาดแผลที่เกิดจากการยิงตัวเองในขณะที่มีอายุ 37 ปี (โดยไม่พบหลักฐานปืนที่ใช้ยิง)[4][note 2] ซึ่งในตอนนั้นผลงานของเขายังเป็นที่รู้จักและชื่นชมโดยคนจำนวนน้อยเท่านั้น
Nattawan s/กระบะทราย38 |
---|
ภาพวาดของ ฟัน โคค หรือ แวน โก๊ะ ไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับในตอนที่เขามีชีวิตอยู่ แต่เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นหลังจากเขาเสียชีวิตแล้ว ทุกวันนี้นับได้ว่า แวน โก๊ะ เป็นหนึ่งในจิตรกรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งและเป็นผู้มีอิทธิพลต่อพื้นฐานของศิลปะสมัยใหม่ในปัจจุบัน
ในช่วงวัยเยาว์ ฟัน โคค หรือ แวน โก๊ะ เริ่มเขียนภาพ (drawing, การวาดภาพโดยการใช้ดินสอ ปากกา ดินสอถ่าน และหมึก) มาโดยตลอดตั้งแต่ยังเด็ก มาถึงช่วงปีที่เขาตัดสินใจเป็นจิตรกร เขาจึงเริ่มวาดภาพระบายสี (painting, การวาดภาพโดยการใช้แปรง พู่กัน และเกรียงระบายสี) คือในช่วงที่เขาอายุย่างเข้า 20 ตอนปลาย และผลงานที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่ของเขาเป็นภาพวาดในระยะ 2 ปีสุดท้ายของชีวิตเขา ฟัน โคค หรือ แวน โก๊ะ สร้างผลงานทั้งสิ้นมากกว่า 2,100 ชิ้น ซึ่งประกอบด้วยภาพสีน้ำมัน 860 ชิ้น ภาพสีน้ำ ภาพเขียน (drawing) งานพิมพ์ (prints) และแบบร่าง (sketches) รวมอีกกว่า 1,300 ชิ้น ผลงานของเขามีอิทธิพลอย่างมากต่อศิลปะนวยุคนิยมที่ตามมา ปัจจุบันผลงานหลายชิ้นของเขา เช่นภาพเหมือนตนเอง (self portraits) ภาพทิวทัศน์ ภาพเหมือน (portraits) รวมถึงภาพชุดต้นสน (cypresses) ภาพชุดทุ่งข้าวสาลี (wheat fields) และภาพดอกทานตะวัน (sunflowers) ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปะที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดและแพงที่สุดในโลก[5]
ฟัน โคค หรือ แวน โก๊ะ ในวัยหนุ่มทำงานในบริษัทค้าขายงานศิลปะ และเดินทางไปมาระหว่างเมืองเดอะเฮก (เมืองหลวงของจังหวัดเซาท์ฮอลแลนด์ ประเทศเนเธอร์แลนด์) ลอนดอน และปารีส และหลังจากนั้นในช่วงปี ค.ศ. 1876 เขาเปลี่ยนมาสอนหนังสือในเมืองแรมส์เกต (Ramsgate) และไอลเวิร์ท (Isleworth) ประเทศอังกฤษ โดยมีความใฝ่ฝันจะเป็นศิษยาภิบาล และได้กลายเป็นมิชชันนารีในเขตทำเหมืองแร่ในเบลเยียมตั้งแต่ ค.ศ. 1879 ในช่วงเวลานั้นเขาเริ่มร่างรูปผู้คนในชุมชนละแวกใกล้เคียง และในปี ค.ศ. 1885 เขาเขียนรูป "คนกินมันฝรั่ง" (The Potato Eaters) ซึ่งเป็นผลงานสำคัญชิ้นแรกของเขา ในช่วงเวลานั้นส่วนใหญ่เขาใช้โทนสีทึมและไม่มีวี่แววของการใช้สีสดใสที่ทำให้ผลงานในภายหลังของเขาโดดเด่นเลย ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1886 เขาย้ายไปปารีสและได้รู้จักกับลัทธิประทับใจ (French impressionists) ภายหลังเขาย้ายไปอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสและประทับใจอากาศอบอุ่นและแดดแรง ๆ ที่เขาพบที่นั่น ผลงานของเขาก็เริ่มมีสีสันสว่างมากขึ้นและพัฒนาไปในรูปแบบที่มีความเฉพาะตัวและเป็นที่รับรู้เมื่อเขาอยู่ที่เมืองอาร์ล (Arles) ในปี ค.ศ. 1888
ปัจจุบันยังไม่เป็นที่พิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าอาการเจ็บป่วยทางจิตและโรคซึมเศร้าของ ฟัน โคค หรือ แวน โก๊ะ นั้นเป็นสาเหตุให้เขาเสียชีวิตหรือไม่ นอกจากข้อสันนิษฐานว่าอาการเจ็บป่วยทางจิตของเขารุนแรงขึ้นจนเป็นสาเหตุให้เกิดการฆ่าตัวตาย ยังมีข้อสันนิษฐานใหม่ที่ขัดแย้งกัน โดยนักวิจารณ์ศิลปะ โรเบิร์ต ฮิวส์ (Robert Hughes) ให้ความเห็นว่าผลงานของ แวน โก๊ะ ในช่วงปลายชีวิตเขาแสดงถึงความสามารถในการวาดภาพชั้นสูงและการควบคุมฝีแปรงอย่างสมบูรณ์ นอกจากนั้นยังแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาได้อย่างสง่างาม[6]