พระเจ้าชาร์ลที่ 10 แห่งฝรั่งเศส
From Wikipedia, the free encyclopedia
พระเจ้าชาร์ลที่ 10 แห่งฝรั่งเศส (ฝรั่งเศส: Charles X de France; ชาร์ลดิสเดอฟร็องส์ 9 ตุลาคม ค.ศ.1757 – 6 พฤศจิกายน ค.ศ.1836) พระนามเดิมว่า ชาร์ลฟิลิปป์ เคานต์แห่งอาร์ตัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งฝรั่งเศสและนาวาร์ ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 1824 จนถึง 2 สิงหาคม ค.ศ. 1830[1] ทรงเป็นพระปิตุลา (อา) ในเยาวกษัตริย์ผู้ทรงไม่ได้บรมราชาภิเษก พระเจ้าหลุยส์ที่ 17 และพระอนุชาในพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศสและพระเจ้าหลุยส์ที่ 18 แห่งฝรั่งเศส พระองค์ได้รับการสนับสนุนภายหลังในขณะที่ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ ภายหลังการฟื้นฟูราชวงศ์บูร์บงใน ค.ศ. 1814 ชาร์ล (มีสถานะเป็นทายาทโดยสันนิษฐาน) กลายเป็นผู้นำของพวกคลั่งเจ้า ฝ่ายนิยมกษัตริย์หัวรุนแรงในราชสำนักฝรั่งเศสที่ยืนยันการปกครองโดยเทวสิทธิราชย์และคัดค้านการยินยอมต่อฝ่ายเสรีนิยมและการรับรองเสรีภาพพลเมืองที่ได้รับจากกฏบัตร ค.ศ. 1814 ชาร์ลได้มีอิทธิพลในราชสำนักฝรั่งเศสภายหลังการลอบสังหาร ชาร์ล แฟร์ดีน็อง ดยุกแห่งแบร์รี่ พระราชโอรสของพระองค์ ใน ค.ศ. 1820 และได้รับการสืบราชบังลังก์ต่อจากพระเจ้าหลุยส์ที่ 18 ใน ค.ศ. 1824
พระเจ้าชาร์ลที่ 10 | |||||
---|---|---|---|---|---|
พระบรมสาทิสลักษณ์โดย บารอนเฌราด์, c.1829 | |||||
พระมหากษัตริย์แห่งฝรั่งเศสและนาวาร์ | |||||
ครองราชย์ | 16 กันยายน 1824 – 2 สิงหาคม 1830 | ||||
ราชาภิเษก | 29 พฤษภาคม 1825 | ||||
ก่อนหน้า | พระเจ้าหลุยส์ที่ 18 | ||||
ถัดไป | พระเจ้าหลุยส์-ฟีลิปที่ 1 | ||||
พระราชสมภพ | 9 ตุลาคม ค.ศ. 1757(1757-10-09) พระราชวังแวร์ซาย, ฝรั่งเศส | ||||
สวรรคต | 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 1836(1836-11-06) (79 ปี) โกรซ, ออสเตรีย | ||||
คู่อภิเษก | มาเรีย เทเรซา แห่งซาวอย | ||||
| |||||
ราชวงศ์ | บูร์บง | ||||
พระราชบิดา | เจ้าชายหลุยส์ โดแฟ็งแห่งฝรั่งเศส | ||||
พระราชมารดา | มารี-โฌเซฟีแห่งซัคเซิน | ||||
ศาสนา | โรมันคาทอลิก | ||||
ลายพระอภิไธย |
รัชสมัยของพระองค์เป็นเวลาเกือบหกปีได้ปรากฏให้เห็นว่าไม่เป็นที่นิยมชอบในท่ามกลางฝ่ายเสรีนิยมในฝรั่งเศส ตั้งแค่ช่วงหนึ่งของพิธีราชภิเษกของพระองค์ใน ค.ศ. 1825 ซึ่งพระองค์พยายามที่จะรื้อฟื้นการปฏิบัติของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัฐบาลที่ทรงแต่งตั้งในรัชกาลของพระองค์ได้ชดใช้คืนเจ้าของที่ดินเดิมสำหรับการยกเลิกระบบฟิวดัลโดยค่าใช้จ่ายของผู้ถือหุ้นกู้ เพิ่มอำนาจของศาสนจักรคาทอลิกและเรียกร้องให้นำอุกฤษฏ์โทษกลับคืนมาสำหรับการลบหลู่เหยียดหยามศาสนา ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งกับสภาผู้แทนราษฏรที่เต็มไปด้วยฝ่ายเสรีนิยมส่วนใหญ่ ชาร์ลทรงอนุมัติในการพิชิตแอลจีเรียของฝรั่งเศสเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนจากปัญหาบ้านเมือง และบังคับให้เฮติชดใช้ค่าเสียหายอย่างมหาศาลเพื่อแลกกับการเลิกปิดล้อมและยอมรับความเป็นเอกราชของเฮติ ในท้ายที่สุด พระองค์ทรงแต่งตั้งรัฐบาลที่เป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยมภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี เจ้าชาย ฌูล เดอปอลีญัก ซึ่งพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งสภานิติบัญญัติฝรั่งเศส ค.ศ. 1830 พระองค์ทรงตอบโต้ด้วยการออกพระราชกฤษฏีกาเดือนกรกฎาคมด้วยการยุบสภาผู้แทนราษฏร การจำกัดแฟรนไชส์ และนำการเซ็นเซอร์ในการปกปิดสื่อมวลชนกลับมาใช้อีกครั้ง ภายในหนึ่งสัปดาห์ ฝรั่งเศสต้องเผชิญกับการก่อจลาจลในเมืองซึ่งนำไปสู่การปฏิวัติเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1830 ซึ่งส่งผลทำให้พระองค์ต้องสละราชบังลังก์และทรงเลือก หลุยส์ ฟิลิปป์ที่ 1 ให้เป็นพระมหากษัตริย์แห่งชาวฝรั่งเศส เมื่อทรงถูกเนรเทศอีกครั้ง ชาร์ลทรงสวรรคตใน ค.ศ. 1836 ในเมืองกอริเซีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออสเตรีย[2] พระองค์ทรงเป็นผู้ปกครองคนสุดท้ายมาจากสาขาผู้อาวุโสของราชวงศ์บูร์บง