ความตกลงป้องกันและปราบปรามการค้าสิ่งปลอม
From Wikipedia, the free encyclopedia
ความตกลงป้องกันและปราบปรามการค้าสิ่งปลอม (อังกฤษ: Anti-Counterfeiting Trade Agreement) หรือเรียกโดยย่อว่า แอกตา (ACTA) เป็นความตกลงพหุภาคีอันมีวัตถุประสงค์เพื่อสถาปนามาตรฐานสากลสำหรับบังคับใช้สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา และมุ่งหวังจะสร้างกรอบกฎหมายระหว่างประเทศสำหรับขจัดสินค้าปลอม ยาเทียม และการละเมิดลิขสิทธิ์บนโลกออนไลน์ กับทั้งจะมีผลเป็นการสร้างองค์กรควบคุมองค์กรใหม่นอกเหนือไปจากที่มีอยู่แล้วคือองค์การค้าโลก องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก และสหประชาชาติ[1][2][3]
ความตกลงป้องกันและปราบปรามการค้าสิ่งปลอม | |
---|---|
ม่วง: ลงนามแล้ว ส้ม: ชาติในสหภาพยุโรปที่ลงนามแล้ว เขียว: ชาติในสหภาพยุโรปที่ยังมิได้ลงนาม น้ำเงิน: ชาติอื่นที่อาจลงนาม | |
ประเภท | ความตกลงพหุภาคี |
วันร่าง | 15 เมษายน 2554 (ปัจฉิมกรรม) |
วันลงนาม | 1 ตุลาคม 2554 |
ที่ลงนาม | กรุงโตเกียว |
วันมีผล | ยังไม่ใช้บังคับ |
เงื่อนไข | เมื่อมีผู้ลงนามให้สัตยาบันแล้วเป็นจำนวนหกราย |
ผู้ลงนาม | สหรัฐอเมริกา, สหภาพยุโรปและรัฐสมาชิกยี่สิบสองราย, ออสเตรเลีย, แคนาดา, ญี่ปุ่น, โมร็อกโก, นิวซีแลนด์, สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ |
ภาคี | (คู่เจรจา) ออสเตรเลีย, แคนาดา, สหภาพยุโรป, ญี่ปุ่น, เม็กซิโก, โมร็อกโก, นิวซีแลนด์, เกาหลี, สิงคโปร์, สวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐ |
ผู้ให้สัตยาบัน | ยังไม่มี |
ผู้เก็บรักษา | รัฐบาลญี่ปุ่น |
ภาษา | อังกฤษ ฝรั่งเศส แลสเปน |
วันที่ 1 ตุลาคม 2554 ประเทศออสเตรเลีย ประเทศแคนาดา ประเทศญี่ปุ่น ประเทศโมร็อกโก ประเทศนิวซีแลนด์ ประเทศสิงคโปร์ ประเทศเกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกาลงนามในความตกลงนี้ ครั้นเดือนมกราคม 2555 สหภาพยุโรปและรัฐสมาชิกอีกยี่สิบสองรายพร้อมใจกันลงนามตามลำดับ ยังให้มีผู้ลงนามแล้วสามสิบเอ็ดราย สนธิสัญญานี้จะมีผลใช้บังคับเมื่อมีผู้ลงนามให้สัตยาบันแล้วเป็นจำนวนหกราย
ประเทศทั้งหลายทั้งที่สนับสนุนความตกลงนี้ก็ดี และที่กำลังเจรจาอยู่ก็ดี เชิดชูความตกลงว่าเป็น การตอบโต้ "การค้าสิ่งปลอมและการละเมิดงานที่ได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์อันทวีอัตราขึ้นทั่วทุกหัวระแหง" ขณะที่เหล่าผู้ต่อต้านว่า สนธิสัญญาดังกล่าวเป็นปฏิปักษ์อย่างร้ายแรงต่อสิทธิพลเมืองและสิทธิทางดิจิทัลขั้นพื้นฐาน อันรวมถึงสิทธิในการแสดงออกและความเป็นส่วนตัวในการคมนาคม[4][5][6][7]