ประเทศกัมพูชา
ราชอาณาจักรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ / From Wikipedia, the free encyclopedia
กัมพูชา (เขมร: កម្ពុជា, กมฺพุชา) ชื่ออย่างเป็นทางการว่า ราชอาณาจักรกัมพูชา (เขมร: ព្រះរាជាណាចក្រកម្ពុជា, พฺระราชาณาจกฺรกมฺพุชา) เป็นประเทศตั้งอยู่ในส่วนใต้ของคาบสมุทรอินโดจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีพื้นที่ 181,035 ตารางกิโลเมตร มีพรมแดนทิศตะวันตกติดต่อกับประเทศไทย ทิศเหนือติดกับประเทศไทยและลาว ทิศตะวันออกและทิศใต้ติดกับเวียดนาม และทิศตะวันตกเฉียงใต้ติดอ่าวไทย ด้วยประชากรกว่า 15 ล้านคน กัมพูชาเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดอันดับที่ 66 ของโลก ศาสนาพุทธนิกายเถรวาทเป็นศาสนาประจำชาติ ซึ่งประชากรกัมพูชานับถือมากกว่า 97%[8] ชนกลุ่มน้อยในประเทศมีชาวเวียดนาม ชาวจีน ชาวจาม และชาวเขากว่า 30 เผ่า[9] เมืองหลวงและเมืองใหญ่สุด คือ พนมเปญ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม
ราชอาณาจักรกัมพูชา
| |
---|---|
ที่ตั้งของ ประเทศกัมพูชา (เขียว) ในอาเซียน (เทาเข้ม) — [คำอธิบายสัญลักษณ์] | |
เมืองหลวง และเมืองใหญ่สุด | พนมเปญ 11°33′N 104°55′E |
ภาษาราชการ | เขมร[1] |
ภาษาราชการที่ยอมรับ | ภาษาพื้นเมืองกว่า 19 ภาษา[2] |
อักษรราชการ | อักษรเขมร |
กลุ่มชาติพันธุ์ (2019) | |
ศาสนา (2019) |
|
เดมะนิม | |
การปกครอง | รัฐเดี่ยว ระบบพรรคเด่น ระบบรัฐสภา ราชาธิปไตยโดยเลือกตั้ง ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ |
พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี | |
สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแณต | |
• ประธานพฤฒสภา | สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน |
• ประธานรัฐสภา | สมเด็จมหารัฐสภาธิการธิบดี ฆวน สุดารี |
สภานิติบัญญัติ | สภาผู้แทนราษฎร |
• สภาสูง | พฤฒสภา |
• สภาล่าง | รัฐสภา |
ก่อตั้ง | |
ค.ศ. 50/68–ค.ศ. 550/627 | |
ค.ศ. 550–802 | |
ค.ศ. 802–1431 | |
• ยุคมืด | ค.ศ. 1431–1863 |
11 สิงหาคม ค.ศ. 1863 | |
• ประกาศอิสรภาพ | 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1953 |
14 ธันวาคม ค.ศ. 1955 | |
• ข้อตกลงสันติภาพของปารีส | 23 ตุลาคม ค.ศ. 1991 |
• รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน | 24 กันยายน ค.ศ. 1993 |
30 เมษายน ค.ศ. 1999 | |
พื้นที่ | |
• รวม | 181,035 ตารางกิโลเมตร (69,898 ตารางไมล์) (อันดับที่ 88) |
2.5 | |
ประชากร | |
• สำมะโนประชากร ค.ศ. 2019 | 15,552,211[4] (อันดับที่ 73) |
87 ต่อตารางกิโลเมตร (225.3 ต่อตารางไมล์) (อันดับที่ 96) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | ค.ศ. 2019 (ประมาณ) |
• รวม | 76.635 พันล้านดอลลาร์[5] |
• ต่อหัว | 4,645 ดอลลาร์[5] |
จีดีพี (ราคาตลาด) | ค.ศ. 2019 (ประมาณ) |
• รวม | 2.6628 หมื่นล้านดอลลาร์[5] |
• ต่อหัว | 1,614 ดอลลาร์[5] |
จีนี (ค.ศ. 2013) | 36.0[6] ปานกลาง |
เอชดีไอ (ค.ศ. 2019) | 0.594[7] ปานกลาง · อันดับที่ 144 |
สกุลเงิน | เรียล (៛) (KHR) |
เขตเวลา | UTC+7 (เวลาอินโดจีน) |
รูปแบบวันที่ | วว/ดด/ปปปป |
ขับรถด้าน | ขวา |
รหัสโทรศัพท์ | +855 |
โดเมนบนสุด | .kh |
ราชอาณาจักรกัมพูชาปกครองแบบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ มีพระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี มาจากการเลือกตั้งโดยราชสภาเพื่อราชบัลลังก์ เป็นประมุขแห่งรัฐ ประมุขรัฐบาล คือ สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ผู้ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้ปกครองกัมพูชามาเป็นระยะเวลากว่า 25 ปี
ใน พ.ศ. 1345 พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ปราบดาภิเษกตนเป็นพระมหากษัตริย์ อันเป็นจุดเริ่มต้นของจักรวรรดิขะแมร์ อำนาจและความมั่งคังมหาศาลของจักรวรรดิขะแมร์ที่มีพระมหากษัตริย์ครองราชสมบัติสืบต่อกันมานั้นได้มีอิทธิพลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเวลากว่า 600 ปี กัมพูชาถูกปกครองเป็นเมืองขึ้นของประเทศเพื่อนบ้าน กระทั่งถูกฝรั่งเศสยึดเป็นอาณานิคมในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 กัมพูชาได้รับเอกราชใน พ.ศ. 2496 สงครามเวียดนามได้ขยายเข้าสู่กัมพูชา ทำให้เขมรแดงขึ้นสู่อำนาจ ซึ่งยึดกรุงพนมเปญได้ใน พ.ศ. 2518 ก่อนจะผงาดขึ้นอีกหลายปีให้หลังภายในเขตอิทธิพลสังคมนิยมเป็นสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชากระทั่ง พ.ศ. 2536 ภายหลังสนธิสัญญาสันติภาพปารีส พ.ศ. 2534 ซึ่งเป็นการยุติสงครามกับเวียดนามอย่างเป็นทางการ กัมพูชาถูกควบคุมโดยสหประชาชาติในช่วงสั้น ๆ (พ.ศ. 2535-2536) หลังจากหลายปีแห่งการโดดเดี่ยว ชาติซึ่งเสียหายจากสงครามก็ได้รวมเข้าด้วยกันอีกครั้งภายใต้ระบอบราชาธิปไตยในปีเดียวกันนั้นเอง
ในการบูรณะประเทศหลังสงครามกลางเมืองนานหลายทศวรรษ กัมพูชามีความคืบหน้าอย่างรวดเร็วในด้านเศรษฐกิจและทรัพยากรมนุษย์ ประเทศกัมพูชาได้มีหนึ่งในบันทึกเศรษฐกิจที่ดีที่สุดในเอเชีย โดยมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ย 6.0% เป็นเวลานาน 10 ปี ภาคสิ่งทอ เกษตรกรรม ก่อสร้าง เสื้อผ้าและการท่องเที่ยวที่เข้มแข็งได้นำไปสู่การลงทุนจากต่างชาติและการค้าระหว่างประเทศ[10] ใน พ.ศ. 2548 มีการพบแหล่งน้ำมันและแก๊สธรรมชาติใต้น่านน้ำอาณาเขตของกัมพูชา การขุดเจาะเชิงพาณิชย์เริ่มขึ้นใน พ.ศ. 2556 รายได้จากน้ำมันสามารถมีผลต่อเศรษฐกิจกัมพูชาอย่างมาก[11]
กัมพูชาเป็นสมาชิกขององค์การสหประชาชาติตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 รวมถึงความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก องค์การการค้าโลก ขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และ องค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส ตามรายงานขององค์การระหว่างประเทศหลายแห่ง ปัญหาหลักของประเทศคือความยากจน[12] การทุจริต[13] การขาดเสรีภาพทางการเมือง อัตราการพัฒนามนุษย์ต่ำ และความอดอยากสูง