ประเทศนาอูรู
From Wikipedia, the free encyclopedia
นาอูรู (อังกฤษ: Nauru, ออกเสียง: /nɑːˈu:ruː/; นาอูรู: Naoero)[8] หรือชื่ออย่างเป็นทางการ สาธารณรัฐนาอูรู (อังกฤษ: Republic of Nauru; นาอูรู: Repubrikin Naoero) เป็นประเทศเกาะและจุลรัฐในภูมิภาคไมโครนีเซีย ทวีปโอเชียเนีย ตอนกลางของมหาสมุทรแปซิฟิก เกาะบานาบาของประเทศคิริบาสเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียงที่สุด โดยอยู่ห่างกัน 300 กิโลเมตร ไปทางตะวันออก นาอูรูตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของตูวาลู ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของหมู่เกาะโซโลมอน โดยอยู่ห่างกัน 1,300 กิโลเมตร[9] ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของปาปัวนิวกินี ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของสหพันธรัฐไมโครนีเซียและทิศใต้ของหมู่เกาะมาร์แชลล์ ด้วยพื้นที่เพียง 21 ตารางกิโลเมตร ทำให้นาอูรูเป็นประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากประเทศโมนาโกและนครรัฐวาติกันและเป็นสาธารณรัฐที่มีขนาดเล็กที่สุด มากไปกว่านั้นด้วยจำนวนประชากรเพียง 10,670 คน จึงทำให้ประเทศนาอูรูเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากนครรัฐวาติกัน
สาธารณรัฐนาอูรู Repubrikin Naoero (นาอูรู) | |
---|---|
เมืองหลวง | ยาเรน (โดยพฤตินัย)[lower-alpha 1] 0°32′S 166°55′E |
เมืองใหญ่สุด | เดนิโกโมดู |
ภาษาราชการ | นาอูรู |
ภาษาพูดทั่วไป | อังกฤษ[lower-alpha 2] |
การปกครอง | รัฐเดี่ยว สาธารณรัฐระบบรัฐสภาภายใต้ประชาธิปไตยแบบไม่ระบุพรรค |
David Adeang | |
• ประธานรัฐสภา | มาร์คัส สตีเฟน |
สภานิติบัญญัติ | รัฐสภา |
เป็นเอกราช | |
• จากภาวะทรัสตีของสหประชาชาติ (จากสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์) | 31 มกราคม ค.ศ. 1968 |
พื้นที่ | |
• รวม | 21 ตารางกิโลเมตร (8.1 ตารางไมล์) (อันดับที่ 192) |
0.57 | |
ประชากร | |
• ค.ศ. 2017 ประมาณ | 11,347[4] (อันดับที่ 228) |
• สำมะโนประชากร 2011 | 10,084[5] |
480 ต่อตารางกิโลเมตร (1,243.2 ต่อตารางไมล์) (อันดับที่ 12) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | 2021 (ประมาณ) |
• รวม | 132 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[6] (อันดับที่ 192) |
• ต่อหัว | 9,995 ดอลลาร์สหรัฐ[6] (อันดับที่ 94) |
จีดีพี (ราคาตลาด) | 2021 (ประมาณ) |
• รวม | 133 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[6] |
• ต่อหัว | 10,125 ดอลลาร์สหรัฐ [6] |
สกุลเงิน | ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) |
เขตเวลา | UTC+12[7] |
ไม่ใช้ | |
ขับรถด้าน | ซ้ายมือ |
รหัสโทรศัพท์ | +674 |
โดเมนบนสุด | .nr |
ชาวไมโครนีเซียและพอลินีเซียเข้ามาตั้งถิ่นฐานเมื่อ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล ปลายศตวรรษที่ 19 จักรวรรดิเยอรมนีได้ผนวกดินแดนนาอูรูเป็นอาณานิคม หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลง นาอูรูกลายเป็นดินแดนในอาณัติของสันนิบาตชาติโดยมีออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักรเป็นผู้จัดการปกครอง ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 กองกำลังของจักรวรรดิญี่ปุ่นได้เข้ายึดครองนาอูรู ในการรุกคืบของฝ่ายสัมพันธมิตรในแปซิฟิก ได้ข้ามการยึดครองนาอูรู ตามยุทธวิธีกบกระโดด หลังจบสงคราม นาอูรูกลายเป็นดินแดนในภาวะทรัสตีของสหประชาชาติ และได้รับเอกราชในปี 1968 ต่อมาได้เข้าร่วมประชาคมแปซิฟิกในปี 1969
นาอูรูเป็นเกาะหินฟอสเฟตที่มี่ปริมาณเก็บไว้เป็นจำนวนมากใกล้ผิวดิน ซึ่งช่วยให้ง่ายต่อการทำเหมืองผิวดิน ส่วนทรัพยากรฟอสเฟตที่เหลือไม่คุ้มค่าในการสกัด[10] เมื่อปริมาณสำรองฟอสเฟตหมดลง ประกอบกับความเสียหายอย่างรุนแรงของระบบนิเวศจากการทำเหมือง ทรัสต์ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อจัดการความมั่งคั่งของเกาะมีมูลค่าลดน้อยลง นาอูรูจึงกลายเป็นที่หลบภาษี (tax haven) และศูนย์กลางของการฟอกเงินในช่วงสั้น ๆ เพื่อหารายได้[11] จากปี 2001 ถึง 2008 และอีกครั้งตั้งแต่ปี 2012 รัฐบาลนาอูรูได้อนุญาตให้ออสเตรเลียตั้งศูนย์ประมวลผลภูมิภาคนาอูรู (Nauru Regional Processing Centre) ซึ่งเป็นสถานกักกันคนเข้าเมืองนอกชายฝั่ง แลกกับเงินช่วยเหลือ ด้วยการพึ่งพาออสเตรเลียเป็นอย่างมาก แหล่งข้อมูลบางแห่งระบุว่านาอูรูเป็นรัฐบริวารของออสเตรเลีย[12][13][14] นาอูรูในฐานะรัฐเอกราชเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ กรอบการประชุมหมู่เกาะแปซิฟิก เครือจักรภพแห่งชาติ และองค์การรัฐแอฟริกา แคริบเบียน และแปซิฟิก