ผู้ใช้:ชาวไทย/ทดลองเขียน
From Wikipedia, the free encyclopedia
พระเจ้าคนุต (อังกฤษ: Cnut ออกเสียง: /kəˈnjuːt/[3] นอร์สเก่า: Knútr inn ríki ออกเสียง: ˈknuːtr ˈinː ˈriːke;[ข] ราว ค.ศ. – 12 พฤศจิกายน ค.ศ. 1035) บ้างออกพระนามว่า คานูท (อังกฤษ: Canute) มีพระราชสมัญญาว่า มหาราช[4][5][6][7] ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษ ตั้งแต่ ค.ศ. 1016 เดนมาร์ก ตั้งแต่ ค.ศ. 1018 และนอร์เวย์ ตั้งแต่ ค.ศ. 1028 ตามลำดับ จวบจนเสด็จสวรรคตใน ค.ศ. 1035[1] ราชอาณาจักรทั้งสามที่ถูกรวมเป็นหนึ่งภายใต้การปกครองของพระองค์นี้ถูกเรียกว่าจักรวรรดิทะเลเหนือ
นี่คือหน้าทดลองเขียนของ ชาวไทย หน้าทดลองเขียนเป็นหน้าย่อยของหน้าผู้ใช้ ซึ่งผู้ใช้มีไว้ทดลองเขียนหรือไว้พัฒนาหน้าต่าง ๆ แต่นี่ไม่ใช่หน้าบทความสารานุกรม ทดลองเขียนได้ที่นี่ หน้าทดลองเขียนอื่น ๆ: หน้าทดลองเขียนหลัก |
พระเจ้าคนุตมหาราช | |
---|---|
พระสาทิสลักษณ์ร่วมสมัยของพระเจ้าคนุตมหาราช จากหนังสือ ลิเบอร์วิเต ของโบสถ์นิวมินส์เตอร์ ค.ศ. 1031 | |
พระมหากษัตริย์อังกฤษ | |
ครองราชย์ | ค.ศ. 1016–1035 |
ราชาภิเษก | ค.ศ. 1017 ในนครลอนดอน |
ก่อนหน้า | พระเจ้าเอ็ดมันด์ที่ 2[1] |
ถัดไป | พระเจ้าฮาโรลด์ที่ 1[1] |
พระมหากษัตริย์เดนมาร์ก | |
ครองราชย์ | ค.ศ. 1018–1035 |
ก่อนหน้า | พระเจ้าแฮรัลด์ที่ 2 |
ถัดไป | พระเจ้าฮาร์ธาคนุต[1] |
พระมหากษัตริย์นอร์เวย์ | |
ครองราชย์ | ค.ศ. 1028–1035 |
ก่อนหน้า | พระเจ้าโอลาฟที่ 2 |
ถัดไป | พระเจ้ามักนุสผู้ทรงธรรม |
กษัตริย์ร่วม | พระเจ้าสเวน คนุตสัน |
พระราชสมภพ | ประมาณ ค.ศ. 990[1][2] ประเทศเดนมาร์ก |
สวรรคต | 12 พฤศจิกายน ค.ศ. 1035 (พระชนมายุประมาณ 45 พรรษา)[1] ชาฟท์สบรี ดอร์เซต ราชอาณาจักรอังกฤษ |
ฝังพระศพ | โอลด์มีนสเตอร์ วินเชสเตอร์ ปัจจุบันพระอัฐิอยู่ที่อาสนวิหารวินเชสเตอร์ วินเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ |
คู่อภิเษก | |
พระราชบุตร |
|
ราชวงศ์ | คนุตลิงกา |
พระราชบิดา | พระเจ้าสเวน ฟอร์กเบียร์ด |
พระราชมารดา | ไม่ทราบ อาจจะเป็น สเวโตสลาวาแห่งโปแลนด์ ซิกริด หรือ กันฮิลด์[ก] |
พระเจ้าคนุตทรงปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์อังกฤษใน ค.ศ. 1016 โดยที่ยังทรงดำรงพระราชอิสริยยศเป็นเจ้าชายแห่งเดนมาร์กควบคู่ไปด้วย ท่ามกลางกระแสการรุกรานของชาวไวกิงทั่วยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือ การขึ้นครองราชบัลลังก์เดนมาร์กของพระองค์ในอีกสองปีต่อมาทำให้อังกฤษและเดนมารก์กลายเป็นรัฐที่มีพระประมุขร่วมกัน พระเจ้าคนุตทรงมุ่งที่จะรักษาฐานพระราชอำนาจนี้ไว้ ด้วยการหลอมรวมชาวเดนส์และอังกฤษเข้าด้วยกันผ่านทางพัทธะทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ พระเจ้าคนุตทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์นอร์เวย์ที่นครทร็อนไฮม์ ใน ค.ศ. 1028 หลังจากทรงแย่งชิงราชบัลลังก์กับเจ้านายอื่น ๆ ในภูมิภาคสแกนดิเนเวียมาเป็นเวลากว่าหนึ่งทศวรรษ พระองค์ยังทรงสามารถยึดครองเมืองซิกทือนาของสวีเดนได้อีกด้วย (ทรงออกเหรียญกษาปณ์ในเมืองนั้น ซึ่งมีการจารึกว่าพระองค์เป็นกษัตริย์ แต่ไม่มีบันทึกเกี่ยวกับการยึดครองเมืองของพระองค์เหลือรอดมาเลย)[8] นอกจากนี้พระองค์ยังทรงแผ่พระราชอำนาจเหนือสกอตแลนด์ด้วยเมื่อพระเจ้ามัลคอล์มที่ 2 ยอมสวามิภักดิ์ต่อพระองค์ใน ค.ศ. 1031 กระนั้นอิทธิพลของชาวแองโกล-นอร์สในสกอตแลนด์ก็มีเพียงเล็กน้อย และท้ายที่สุดก็จางหายไปหมดสิ้นหลังจากพระองค์เสด็จสวรรคต[9][10]
การยึดครองอังกฤษส่งผลให้ชนเดนส์สามารถเชื่อมอาณาเขตทางทะเลของเกาะบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นบริเวณที่พระเจ้าคนุตและพระราชบิดาของพระองค์ให้ความสนพระทัยมากเป็นพิเศษ นอกจากนี้พระองค์ยังทรงมีอิทธิพลเหนือดินแดนที่ชาวนอร์ส–เกลล์ปกครองเป็นอันมาก[11] การที่พระองค์ได้ครอบครองเขตมุขมณฑลของอังกฤษและเดนมาร์ก (ซึ่งพื้นที่หลังนี้ถูกอ้างสิทธิ์โดยราชรัฐอัครมุขนายกฮัมบวร์ค–เบรเมินของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์) เป็นสิ่งที่ส่งเสริมพระเกียรติภูมิของพระองค์ท่ามกลางบรรดาผู้ยิ่งใหญ่ (Magnate) ในโลกคริสเตียน และยังสามารถใช้เป็นข้อต่อรองกับคริสตจักรโรมันคาทอลิกได้อีกด้วย (ยกตัวอย่างเช่น การต่อรองให้ลดราคาแพลเลียม [Pallium; ผ้าคลุมไหล่สำหรับนักบวช] โดยที่มีข้อแม้ว่าบรรดานักบวชยังคงต้องเดินทางมารับผ้าดังกล่าวด้วยตนเองเช่นเดิม หรือการต่อรองอัตราราคาค่าผ่านด่านที่ราษฎรของพระองค์ต้องจ่ายระหว่างทางไปกรุงโรม) หลังจากทรงเอาชนะนอร์เวย์และสวีเดนได้ใน ค.ศ. 1026 และเสร็จสิ้นพระราชกรณียกิจจากการไปร่วมพระราชพิธีราชาภิเษกของจักรพรรดิค็อนราทที่ 2 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์แล้ว พระเจ้าคนุตก็ทรงประกาศพระองค์เอง (ผ่านทางพระราชสาสน์ที่ทรงพระราชนิพันธ์ขึ้นเพื่อประทานแก่เหล่าข้าแผ่นดิน [Subjects] ทั้งหลาย) เป็น "พระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษทั้งปวง เดนมาร์ก ชาวนอร์เวย์ แลบางพื้นที่ของชาวสวีด"[12] พระองค์ทรงใช้พระราชอิสริยยศในอังกฤษว่า "พระมหากษัตริย์แห่งแดนอังกฤษ" (ealles Engla landes cyning) ซึ่งต่างจากบรรดากษัตริย์ของชาวแองโกล–แซกซันเดิมที่ปกครองอังกฤษก่อนการเข้ามาของไวกิง ซึ่งใช้พระราชอิสริยยศว่า "พระมหากษัตริย์แห่งชนอังกฤษ" นอร์แมน แคนทอร์ นักสมัยกลางศึกษา (Medievalist) กล่าวว่าพระเจ้าคนุตทรงเป็น "พระมหากษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาที่สุด" ในประวัติศาสตร์อังกฤษสมัยแองโกล–แซกซัน[13]
นอกจากนี้ พระองค์ยังถูกนำมาอ้างถึงในตำนานสอนใจเรื่องพระเจ้าคนุตกับกระแสน้ำด้วย