ผู้ใช้:Phaisit16207/ทดลองเขียน 13
From Wikipedia, the free encyclopedia
พรรคเอกภาพสังคมนิยมเยอรมนี (เยอรมัน: Sozialistische Einheitspartei Deutschlands, SED) มักรู้จักกันในภาษาอังกฤษว่า พรรคคอมมิวนิสต์แห่งเยอรมนีตะวันออก (East German Communist Party)[2] เป็นพรรคการเมืองลัทธิมากซ์–เลนิน[3] ที่ปกครองสาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมนี (เยอรมนีตะวันออก) ตั้งแต่การก่อตั้งของประเทศในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1949 จนถึงการยุบพรรคหลังการปฏิวัติเงียบสงบ ใน ค.ศ. 1989 พรรคเอกภาพสังคมนิยมเยอรมนีถูกก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน ค.ศ. 1946 โดยการรวมตัวกันระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์เยอรมนีและพรรคสังคมประชาธิปไตยเยอรมนี
นี่คือหน้าทดลองเขียนของ Phaisit16207 หน้าทดลองเขียนเป็นหน้าย่อยของหน้าผู้ใช้ ซึ่งผู้ใช้มีไว้ทดลองเขียนหรือไว้พัฒนาหน้าต่าง ๆ แต่นี่ไม่ใช่หน้าบทความสารานุกรม ทดลองเขียนได้ที่นี่ หน้าทดลองเขียนอื่น ๆ: หน้าทดลองเขียนหลัก |
พรรคเอกภาพสังคมนิยมเยอรมนี Sozialistische Einheitspartei Deutschlands | |
---|---|
ก่อตั้ง | 21 เมษายน ค.ศ. 1946 (1946-04-21) |
ถูกยุบ | 16 ธันวาคม ค.ศ. 1989 (1989-12-16) |
รวมตัวกับ | KPD และ SPD |
ถัดไป | PDS |
หนังสือพิมพ์ | Neues Deutschland |
ฝ่ายเยาวชน | Freie Deutsche Jugend |
สมาชิกภาพ (ปี 1989) | 2,260,979[1] |
อุดมการณ์ | คอมมิวนิสต์ ลัทธิมากซ์ –ลัทธิเลนิน |
กลุ่มระดับสากล | โคมินฟอร์ม |
สี | แดง |
เพลง | "ลีทแดร์พาร์ทัย" |
ธงประจำพรรค | |
การเมืองเยอรมนีตะวันออก รายชื่อพรรคการเมือง การเลือกตั้ง |
ถึงแม้ว่าประเทศเยอรมนีตะวันออกจะเป็นรัฐพรรคการเมืองเดียว[4] แต่ก็มีแนวร่วมประชาชนจากสถาบันอื่น ๆ ที่ได้รับอนุญาตให้เป็นพันธมิตรกับพรรคเอกภาพสังคมนิยมเยอรมนี พรรคเหล่านี้ได้แก่ สหภาพประชาธิปไตยคริสตชน, พรรคประชาธิปไตยเสรีนิยม, พรรคเกษตรกรประชาธิปไตย และพรรคประชาธิปไตยแห่งชาติ ในคริสต์ทษวรรษที่ 1980 พรรคเอกภาพสังคมนิยมเยอรมนีปฏิเสธนโยบายเปิดความคิดเสรีของมีฮาอิล กอร์บาชอฟ เช่น เปเรสตรอยคา และ กลัสนอสต์ ซึ่งจะไปสู่การแยกเยอรมนีตะวันออก ออกจากการปรับโครงสร้างของสหภาพโซเวียต และการล่มสลายของพรรคเอกภาพสังคมนิยมเยอรมนี ในฤดูใบไม้ผลิของ ค.ศ. 1989
พรรคเอกภาพสังคมนิยมเยอรมนีได้รับการจัดระเบียบอย่างเป็นทางการ บนรากฐานของคติประชาธิปไตยแบบรวมศูนย์ แนวคิดนี้ถูกคิดขึ้นโดยนักทฤษฎีลัทธิมากซ์ชาวรัสเซีย วลาดีมีร์ เลนิน which conceptualized a democratic and open discussion on policy on the condition of unity in upholding the agreed-upon policies. Theoretically, the highest body of the SED was the Party Congress, convened every fifth year. When the Party Congress was not in session, the Central Committee was the highest body, but since the body normally met only once a year most duties and responsibilities were vested in the Politburo and its Standing Committee, members of the latter being seen as the top leadership of the Party and the State within the State Council of East Germany from 1960 replacing the President of the German Democratic Republic.