มหาสงครามเหนือ
From Wikipedia, the free encyclopedia
มหาสงครามเหนือ (อังกฤษ: Great Northern War; รัสเซีย: Северная война; สวีเดน: stora nordiska kriget) เป็นสงครามครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1700 ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 10 กันยายน ปี ค.ศ. 1721 รวมระยะเวลาทั้งหมดเป็น 21 ปี นำโดยจักรวรรดิรัสเซียแห่งฝ่ายพันธมิตรเข้าปะทะกับจักรวรรดิสวีเดนในภูมิภาคยุโรปกลางและยุโรปเหนือ ก่อนจะนำมาด้วยชัยชนะของฝ่ายพันธมิตรและการก้าวขึ้นมามีอำนาจสูงสุดของรัสเซียเหนือคาบสมุทรบอลติก รวมถึงการเข้ามามีอิทธิพลในยุโรปของรัสเซียจวบจนปัจจุบัน ส่วนสวีเดนต้องตกอยู่ใต้ "ยุคแห่งเสรีภาพ" อันมีระบบรัฐสภาปกครองประเทศอันเนื่องมาจากการสวรรคตของพระเจ้าคาร์ลที่ 12[3][4]นำไปสู่ยุคราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญของสวีเดนถึง 54 ปี[4]
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
มหาสงครามเหนือ | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ สงครามรัสเซีย-สวีเดน สงครามรัสเซีย-โปแลนด์ สงครามรัสเซีย-เดนมาร์ก สงครามรัสเซีย-ตุรกี | |||||||||
ตามเข็มนาฬิกาจากภาพบน: ยุทธการโพลทาวา ยุทธการกันกุท ยุทธการนาร์วา ยุทธการเลสนายา ยุทธการกาเดอบุช และยุทธการสตอร์คีโร | |||||||||
| |||||||||
คู่สงคราม | |||||||||
|
| ||||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||||
|
จักรพรรดิปีเตอร์ที่ 1 แห่งรัสเซีย อเล็กซานเดอร์ เมนชิคอฟ บอริส เชร์เมเทฟ เฟรเดอริคที่ 4 คริสเตียน เรเวนโลว ทอร์เดนสโจลด์ ฟรีดริช ออกัสตัสที่ 1/2 ฟรีดริช วิลเฮล์มที่ 1 อีวาน มาเซปปา อีวาน สโครพาดสกี จอร์จที่ 1 ดมีตรี คานเตเมียร์ | ||||||||
กำลัง | |||||||||
ไม่ทราบจำนวนรวมแน่ชัด สวีเดน 177,000—393,400—135,000 นาย 2ออตโตมัน 100,000-200,000 นาย คอสแซค 8,000-40,000 โปแลนด์ 16,000 นาย โจรสลัด 1,400 คน [ต้องการอ้างอิง] |
ทหารทั้งหมดอย่างน้อย 310,000 นาย รัสเซีย 170,000 นาย เดนมาร์ก/นอร์เวย์ 40,000 นาย โปแลนด์/แซ็กซอน+100,000 นาย เยอรมัน ปรัสเซีย และฮาโนเวอร์ไม่ทราบจำนวน | ||||||||
ความสูญเสีย | |||||||||
ทหารสวีเดนราว 25,000 นายเสียชีวิตในสนามรบ, 175,000 นายเสียชีวิตจากความอดอยาก, โรคระบาด, ความทุรกันดาร และอื่นๆ[1] |
ทหารรัสเซียอย่างน้อย 75,000 นาย ทหารโปแลนด์/แซ็กซอน 14,000-20,000 นาย และทหารเดนมาร์กอีก 8000 ในยุทธการใหญ่และ 60000 กว่าคนตลอดเวลาที่เข้าร่วมสงคราม[2] นอกจากนั้นทหารรัสเซียกว่า 30000 คนเสียชีวิตในสนามรบ ส่วนอีก 9000 คนบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในที่สุด | ||||||||
1ทหารขั้นต้น ค.ศ. 1700 ค.ศ. 1707 ตามลำดับ 2เข้าร่วมต่อสู้ในยุทธการเดียว, ไม่เข้ายุ่งเกี่ยวตลอดสงคราม |
สงครามนี้นำด้วยกองทหารสองเหล่าทัพ โดยมีฝ่ายสัมพันธมิตรเป็นผู้เปิดฉากต่อสู้ก่อน นำโดยพระเจ้าปีเตอร์มหาราชแห่งรัสเซีย พระเจ้าเฟรเดอริคที่ 4 แห่งเดนมาร์ก-นอร์เวย์ และพระเจ้าออกัสตัสที่ 2 แห่งแซกซ์-โปแลนด์-ลิทัวเนีย ซึ่งต่อมาได้ถอนกำลังออกในปี ค.ศ. 1700 และปี ค.ศ. 1706 ตามลำดับ แต่ในปี ค.ศ. 1709ก็ได้นำกองทัพเข้ามาสมทบต่อจนสิ้นสงคราม นอกจากนี้ยังมี พระเจ้าจอร์จที่ 1นำทัพจากฮาโนเวอร์เข้ามาร่วมสงครามในปี ค.ศ. 1714 และได้นำทัพจากบริเตนใหญ่เข้ามาสมทบภายหลังในปี ค.ศ. 1717 รวมทั้งพระเจ้าฟรีดริช วิลเฮล์มที่ 1 แห่งบรานเดนบูร์ก-ปรัสเซียที่นำกองทัพเข้ามาสมทบในปี ค.ศ. 1715 อีกด้วย ส่วนทางด้านฝ่ายสวีเดนนั้นนำด้วยพระเจ้าคาร์ลที่ 12 โดยมีกองทัพแห่งฮ็อลชไตน์-ก็อธธอร์ป รวมทั้งทัพโปแลนด์-ลิทัวเนียที่นำโดยกษัตริย์สตานิสลอว เลซซิงสกีในปี ค.ศ. 1704 ถึงปี ค.ศ. 1710 และกองทัพคอสแซคภายใต้การนำทัพของอีวาน มาเซปปา รองผู้บัญชาการทัพสูงสุดแห่งชนชาติยูเครน รวมถึงสุลต่านอาห์เมดที่นำทัพออตโตมันร่วมสงครามกับฝ่ายสวีเดนแล้วมุ่งหน้าปะทะกับกองทัพรัสเซียเป็นหลักอีกด้วย
สงครามเปิดฉากด้วยการที่กองทัพพันธมิตรแห่งเดนมาร์ก-นอร์เวย์ แซกโซนี โปแลนด์-ลิทัวเนีย และรัสเซียกรีฑาทัพเข้าโจมตีฮ็อลชไตน์-ก็อธธอร์ป ลิโวเนีย และอินเกรียอันเป็นดินแดนของจักรวรรดิสวีเดนซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของพระเจ้าคาร์ลที่ 12ที่ในสมัยนั้นยังทรงพระเยาว์ จึงขาดความรู้และประสบการณ์เป็นอย่างมาก ฝ่ายสวีเดนจึงได้แต่ตั้งหน้ารับการโจมตีของฝ่ายพันธมิตรอยู่ท่าเดียว จนกระทั่งยุทธการนั้นจบลงด้วยสนธิสัญญาสงบศึกแห่งทราเวนดอล นับตั้งแต่นั้นมหาสงครามเหนือก็ได้เริ่มขึ้น และกลายเป็นสงครามที่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งๆ ในประวัติศาสตร์ยุโรปเลยทีเดียว
หลังจากระยะสงครามที่ยืดเยื้อมาถึง 21 ปีแล้ว จักรวรรดิสวีเดนได้เริ่มทำสนธิสัญญาสต็อกโฮล์มเพื่อสงบศึกกับฮาโนเวอร์และปรัสเซียในปี ค.ศ. 1719 ต่อมาในปี ค.ศ. 1720 ได้ทำสนธิสัญญาสงบศึกเฟรเดริกส์เบิร์กกับฝั่งเดนมาร์ก-นอร์เวย์ แต่ก็ยังยืนกรานที่จะเปิดสงครามกับรัสเซียต่อไป จนกระทั่งปี ค.ศ. 1721 สวีเดนแพ้สงครามในที่สุด จนสวีเดนต้องทำสนธิสัญญาสงบศึกนีสตาดกับรัสเซีย โดยสนธิสัญญาทั้งสามฉบับสวีเดนต้องเสียสินทรัพย์และดินแดนเป็นจำนวนไม่น้อยเป็นค่าปฏิกรรมสงครามเลยทีเดียว ท้ายที่สุดแล้วสวีเดนจึงต้องสูญเสียอำนาจในการปกครองดินแดนหลายๆ ส่วน นอกจากนั้นยังโดนลดอำนาจในคาบสมุทรบอลติกลงและยังต้องเปลี่ยนระบอบการปกครองเพราะสิ้นราชวงศ์ในสงคราม[4]อีกด้วย ส่วนรัสเซียนั้นหลังจบสงครามก็ได้เริ่มต้นยุคแห่งการแผ่ขยายอำนาจออกไปอย่างกว้างใหญ่ไพศาล ก่อนที่จะหยุดลงในสองศตวรรษหลังจากนั้นเอง แต่อิทธิพลของรัสเซียที่มีต่อยุโรปและต่อประชาคมโลกยังคงมีอยู่ แม้จะน้อยลงบ้างก็ตาม