สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลในฤดูกาล 2019–20
From Wikipedia, the free encyclopedia
ฤดูกาล 2019–20 เป็นฤดูกาลที่ 128 ของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล และเป็นฤดูกาลที่ 58 ติดต่อกันบนลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ และยังเป็นฤดูกาลที่ 28 ติดต่อกันบนพรีเมียร์ลีก นอกจากพรีเมียร์ลีกแล้วสโมสรได้เข้าแข่งขันในรายการ เอฟเอคัพ, อีเอฟแอลคัพ, ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์, ยูฟ่าซูเปอร์คัพและฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก การแข่งขันในฤดูกาลนี้ได้หยุดชั่วคราวเมื่อวันที่ 5 เมษายน ถึง 17 มิถุนายน ค.ศ. 2020 เนื่องจากการระบาดทั่วของไวรัสโคโรนา[1][2]
ฤดูกาล 2019–20 | ||||
---|---|---|---|---|
ซาดีโย มาเนและจอร์แดน เฮนเดอร์สัน กำลังชูถ้วยรางวัลหลังชนะเลิศในรายการ ยูฟ่าซูเปอร์คัพ โดยลิเวอร์พูลยิงลูกโทษชนะเชลซี | ||||
ประธานสโมสร | ทอม เวอร์เนอร์ | |||
ผู้จัดการทีม | เยือร์เกิน คลอพพ์ | |||
สนาม | แอนฟีลด์ | |||
พรีเมียร์ลีก | ชนะเลิศ | |||
เอฟเอคัพ | รอบห้า | |||
อีเอฟแอลคัพ | รอบก่อนรองชนะเลิศ | |||
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก | รอบ 16 ทีมสุดท้าย | |||
เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ | รองชนะเลิศ | |||
ยูฟ่าซูเปอร์คัพ | ชนะเลิศ | |||
ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก | ชนะเลิศ | |||
ผู้ทำประตูสูงสุด | ลีก: มุฮัมมัด เศาะลาห์ (19) ทั้งหมด: มุฮัมมัด เศาะลาห์ (23) | |||
| ||||
|
ลิเวอร์พูลจบอันดับที่สองใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018–19 ทำให้ทีมเข้าแข่งขันในรายการเอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 2019 ซึ่งแพ้ให้กับแมนเชสเตอร์ซิตีจากการยิงลูกโทษ 4–5[3] และในฐานะที่เป็นผู้ชนะเลิศใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 ลิเวอร์พูลเข้าแข่งขันในรายการ ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2019 เอาชนะเชลซีจากการยิงลูกโทษ 5–4 โดยเป็นสมัยที่ 4 ที่ลิเวอร์พูลชนะในรายการนี้ โดยเป็นรองแค่ บาร์เซโลนาและเอซี มิลาน ที่ชนะเลิศ 5 สมัย[4]
ลิเวอร์พูลตกรอบในรายการ อีเอฟแอลคัพ ฤดูกาล 2019–20 รอบก่อนรองชนะเลิศ โดยแพ้ แอสตันวิลลา หลังต้องส่งผู้เล่นชุดเยาวชนลงแข่งขัน นำโดยผู้จัดการทีมชุดเยาวชนอายุต่ำกว่า 23 ปี นีล คริตชลีย์ ขณะที่ทีมชุดใหญ่ไปแข่งขันในรายการ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2019 ที่กาตาร์ซึ่งนำโดยคลอพพ์[5] แล้วลิเวอร์พูลก็ชนะเลิศในรายการนี้เป็นครั้งแรก โดยชนะ ฟลาเม็งกู สโมสรฟุตบอลจากบราซิล ด้วยผล 1–0 ใน นัดชิงชนะเลิศ หลังต่อเวลาพิเศษ[6] ทำให้เป็นสโมสรฟุตบอลอังกฤษทีมแรกที่ชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก, ยูฟ่าซูเปอร์คัพและฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกในปีเดียวกัน[7][8] ลิเวอร์พูลตกรอบในรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกโดยแพ้ให้กับอัตเลติโกเดมาดริด ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยผลประตูรวมทั้งสองนัด 4–2[9]
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ลิเวอร์พูลเป็นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 19 โดยเป็นครั้งแรกตั้งแต่ ฤดูกาล 1989–90 และครั้งแรกในสมัยพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูลได้ทำสถิติชนะเกมเหย้าในลีกสูงสุดติดต่อกัน 23 นัด, มีคะแนนห่างกันมากที่สุด 22 คะแนน[10] และชนะติดต่อกันในพรีเมียร์ลีก 18 นัด[11][12] ลิเวอร์พูลทำสถิติเป็นทีมที่ชนะเลิศพรีเมียร์ลีกก่อนจะจบการแข่งขันแล้วเหลือเกมการแข่งขันมากที่สุด (โดยเหลืออีก 7 เกม) และเป็นทีมที่ชนะเลิศพรีเมียร์ลีกช้าที่สุด (เป็นทีมเดียวที่ชนะเลิศในเดือนมิถุนายน)[13] ลิเวอร์พูลลงเล่นไม่แพ้ใครในลีก 44 นัด ทำสถิติเป็นอันดับที่ 2 ในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุด จนกระทั่งแพ้ให้กับ วอตฟอร์ด เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020[14]