เหตุการณ์ 12-3 (จีน: 一二·三事件) หรือในโปรตุเกสเรียก การจลาจล 1-2-3 (โปรตุเกส: Motim 1-2-3) เป็นการจลาจลในมาเก๊า เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ค.ศ. 1966 โดยได้รับอิทธิพลจากการปฏิวัติทางวัฒนธรรมในประเทศจีน ชื่อเหตุการณ์ดังกล่าวมาจากวันที่เกิดเหตุ[5]
ข้อมูลเบื้องต้น วันที่, สถานที่ ...
เหตุการณ์ 12-3 |
---|
ส่วนหนึ่งของ การให้เอกราชในเอเชียและสงครามอาณานิคมโปรตุเกส |
|
วันที่ | พฤศจิกายน ค.ศ. 1966 – มกราคม ค.ศ. 1967 |
---|
สถานที่ | มาเก๊า |
---|
วิธีการ | การเดินขบวน, การนัดหยุดงาน, การคว่ำบาตร |
---|
ผล | รัฐบาลอาณานิคมโปรตุเกสยอมรับข้อเรียกร้องของผู้ประท้วง โดยจัดให้อาณานิคมอยู่ภายใต้การควบคุมของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยพฤตินัย |
---|
คู่ขัดแย้ง |
---|
|
คณะกรรมการต่อต้านการกดขี่ข่มเหงของโปรตุเกส
- หอการค้าจีนมาเก๊า
- สมาพันธ์สหภาพแรงงานมาเก๊า
- สมาคมสตรีมาเก๊า
- คณะกรรมการประชาชนกวางตุ้ง
สนับสนุนโดย: จีน
ยุวชนแดง | |
ผู้นำ |
---|
อังตอนียู ลอปึช ดุช ซังตุช ฌูแซ มานูแวล นอบรือ ดือ การ์วัลยู Carlos da Silva Carvalho |
|
|
จำนวน |
---|
ไม่ทราบ |
ทหาร 15,000 นาย เรือรบ 5 ลำ
ยุวชนแดง 15,000 นาย |
|
ความสูญเสีย |
---|
ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต, บาดเจ็บบางส่วน |
- ผู้ประท้วงถูกฆ่า 8 คน, บาดเจ็บ 212 คน
- ยุวชนแดง 25 นาย [3][4]
|
|
ปิด
ข้อมูลเบื้องต้น อักษรจีนตัวเต็ม, อักษรจีนตัวย่อ ...
ปิด
ในปี ค.ศ. 1966 ชาวเมืองบนเกาะไทปาพยายามขออนุญาตเปิดโรงเรียนเอกชนที่สนับสนุนโดยองค์กรฝ่ายซ้าย[6] ถึงแม้จะได้รับการจัดสรรที่ดินจากเจ้าหน้าที่ แต่กระบวนการจัดตั้งโรงเรียนที่ล่าช้าและไม่ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ ทำให้ชาวเมืองตั้งโรงเรียนขึ้นเองโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต[7] ในเดือนพฤศจิกายน ปีเดียวกัน เจ้าหน้าที่สั่งระงับการก่อสร้างโรงเรียน นำไปสู่การปะทะกันระหว่างชาวเมืองกับตำรวจมาเก๊า[6] มีผู้บาดเจ็บกว่า 40 คน[8]
ต่อมามีกลุ่มนักศึกษาและคนงานเดินขบวนที่ทำเนียบรัฐบาลมาเก๊า จนถึงวันที่ 3 ธันวาคม ปีเดียวกัน กลุ่มยุวชนแดงเริ่มก่อการจลาจล ด้านรัฐบาลประกาศจับกลุ่มผู้ชุมนุม ทำให้สถานการณ์ยิ่งรุนแรงขึ้น มีการทำลายสถานที่ต่าง ๆ เช่น อนุสาวรีย์วีเซ็งตือ นีกูเลา ดือ มึชกีตา ที่จัตุรัสซือนาดู, ทำลายภาพเหมือนของอดีตผู้ว่าการที่ศาลากลางและเผาหนังสือและบันทึกของทางการ[9] ภายหลังมีการประกาศกฎอัยการศึก[10] จากเหตุดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 คน บาดเจ็บ 212 คน[5]
หลังเหตุการณ์ดังกล่าว ชาวจีนในมาเก๊าประกาศ "3 ไม่" เพื่อต่อต้านรัฐบาล ได้แก่ ไม่จ่ายภาษี, ไม่ให้บริการ และไม่ขายสินค้าให้ชาวโปรตุเกส[11] ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1967 ผู้ว่าการมาเก๊าแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าวที่สภาหอการค้าจีน[12] เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้อำนาจของโปรตุเกสในมาเก๊าเสื่อมลงและจีนแผ่นดินใหญ่ขึ้นมามีอำนาจแทน[10] อิทธิพลของจีนแผ่นดินใหญ่ทำให้กิจกรรมของพรรคก๊กมินตั๋งบนเกาะมาเก๊าถูกสั่งห้าม[13]