โคเรียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 007
From Wikipedia, the free encyclopedia
โคเรียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 007 (หรือ KAL 007 หรือ KE 007) เป็นเที่ยวบินของโคเรียนแอร์ไลน์ตามกำหนดการจากนครนิวยอร์กสู่โซล แวะพักที่แองเคอเรจ วันที่ 1 กันยายน 2526 เครื่องบินโดยสารของเที่ยวบินดังกล่าวถูกเครื่องบินสกัดกั้นซู-15 ของสหภาพโซเวียตยิงตกใกล้เกาะโมเนรอน ทางตะวันตกของเกาะซาฮาลิน ในทะเลญี่ปุ่น นักบินของเครื่องบินสกัดกั้นลำนั้น คือ นาวาอากาศตรี เกนนาดี โอซีโปวิช ผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 269 คนบนเครื่องเสียชีวิต รวมทั้งลอว์เรนซ์ แมคโดนัลด์ ผู้แทนรัฐจอร์เจียในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา อากาศยานลำดังกล่าวกำลังอยู่ในเส้นทางจากแองเคอเรจสู่โซลเมื่อบินผ่านน่านฟ้าโซเวียตที่ถูกห้ามในเวลาไล่เลี่ยกับภารกิจสอดแนมของสหรัฐ
ภาพจำลอง แสดงเครื่องโบอิง 747-230บี | |
สรุปอุบัติการณ์ | |
---|---|
วันที่ | 1 กันยายน 2526 |
สรุป | ถูกยิงตก |
จุดเกิดเหตุ | ใกล้เกาะโมเนรอน ทางตะวันตกของเกาะซาฮาลิน สหภาพโซเวียต 46°34′N 141°17′E |
ประเภทอากาศยาน | โบอิง 747-230บี |
ดําเนินการโดย | โคเรียนแอร์ไลน์ |
ทะเบียน | HL-7442 |
ต้นทาง | ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ. เคนเนดี ควีนส์ รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา |
จุดพักสุดท้าย | ท่าอากาศยานนานาชาติเทด สตีเวนส์ แองเคอเรจ รัฐอะแลสกา สหรัฐอเมริกา |
ปลายทาง | ท่าอากาศยานนานาชาติคิมโพ เขตคังซอ โซล ประเทศเกาหลีใต้ |
ผู้โดยสาร | 246 |
ลูกเรือ | 23 |
เสียชีวิต | 269 (ทั้งหมด) |
บาดเจ็บ | 0 |
รอดชีวิต | 0 |
ทีแรก สหภาพโซเวียตปฏิเสธรู้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว[1] แต่ภายหลังยอมรับการยิง โดยอ้างว่าอากาศยานดังกล่าวอยู่ระหว่างภารกิจสอดแนม[2] โปลิตบูโรแถลงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการยั่วยุโดยเจตนาของสหรัฐ[3] เพื่อทดสอบความพร้อมทางทหารของสหภาพโซเวียต หรือกระทั่งยั่วยุให้เกิดสงคราม ทำเนียบขาวกล่าวหาสหภาพโซเวียตว่าขัดขวางปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย[4] กองทัพโซเวียตระงับหลักฐานที่แสวงโดยการสอบสวนขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ที่เด่นคือ เครื่องบันทึกข้อมูลการบิน[5] ซึ่งสุดท้ายเผยแพร่ 8 ปีให้หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต[6]
เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นขณะที่ตึงเครียดที่สุดขณะหนึ่งของสงครามเย็นและส่งผลให้คติต่อต้านโซเวียตทวีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐ มุมมองตรงข้ามต่อเหตุการณ์ไม่เคยระงับอย่างสมบูรณ์ ต่อมา หลายกลุ่มดำเนินการกับรายงานอย่างเป็นทางการที่พิพาทและเสนอทฤษฎีทางเลือกของเหตุการณ์ การปล่อยใบสำเนาเที่ยวบินและเครื่องบันทึกเที่ยวบิน KAL 007 ภายหลังโดยสหพันธรัฐรัสเซียเปิดเผยรายละเอียดบางอย่าง
ผลของเหตุการณ์ สหรัฐอเมริกาเปลี่ยนวิธีดำเนินการติดตามอากาศยานที่ออกจากรัฐอะแลสกา โปรแกรมต่อประสานนักบินอัตโนมัติที่ใช้บนสายการบินได้รับการออกแบบใหม่ให้การย์ (ergonomic) มากขึ้น[7] นอกเหนือจากนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวยังเป็นเหตุการณ์เดี่ยวที่สำคัญที่สุดเหตุการณ์หนึ่งซึ่งทำให้รัฐบาลเรแกนอนุญาตให้ทั่วโลกเข้าถึงระบบ GNSS ของกองทัพสหรัฐ ซึ่งยังเป็นความลับอยู่ในขณะนั้น ปัจจุบัน ระบบดังกล่าวรู้จักกันอย่างกว้างขวางในชื่อ จีพีเอส