ความแตกแยกระหว่างจีน–โซเวียต
From Wikipedia, the free encyclopedia
ความแตกแยกระหว่างจีน-โซเวียต (อังกฤษ: Sino-Soviet split; รัสเซีย: Советско-китайский раскол; จีน: 中苏交恶; 1960-1989) เป็นความเสื่อมของความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีน (PRC) และสหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต (USSR) ซึ่งมีสาเหตุเกิดจากความแตกต่างจากการตีความแตกต่างกันของลัทธิมากซ์-เลนินซึ่งเป็นอิทธิพลในการปกครองของจีนและโซเวียต[2]
ข้อมูลเบื้องต้น ความแตกแยกระหว่างจีน–โซเวียต, วันที่ ...
ความแตกแยกระหว่างจีน–โซเวียต | |||
---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ สงครามเย็น และ ความสัมพันธ์จีน–โซเวียต | |||
เหมา เจ๋อตง และนีกีตา ครุชชอฟในจีน (1958) | |||
วันที่ | 1956–1966[1] | ||
สถานที่ | จีน, สหภาพโซเวียต | ||
สาเหตุ | การล้มล้างอิทธิพลของสตาลินของสหภาพโซเวียต, การปฏิรูป และ ลัทธิเหมา | ||
วิธีการ | สงครามตัวแทน, การโฆษณาชวนเชื่อ และ ความขัดแย้งด้านพรมแดนระหว่างจีน–โซเวียต | ||
ผล | สงครามเย็นสามขั้ว และการแข่งขันสองทางของพันธมิตรกลุ่มตะวันออก | ||
ผู้นำ | |||
ปิด
ข้อมูลเบื้องต้น ชื่อภาษาจีน, อักษรจีนตัวเต็ม ...
ความแตกแยกระหว่างจีน–โซเวียต | |||||||
ชื่อภาษาจีน | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
อักษรจีนตัวเต็ม | 中蘇交惡 | ||||||
อักษรจีนตัวย่อ | 中苏交恶 | ||||||
| |||||||
ชื่อภาษารัสเซีย | |||||||
ภาษารัสเซีย | Советско–китайский раскол | ||||||
อักษรโรมัน | Sovetsko–kitayskiy raskol | ||||||
ปิด
โดยทางสหภาพโซเวียต ได้มีผู้นำคนใหม่คือนีกีตา ครุชชอฟ ซึ่งมีนโยบายที่จะกำจัดความคิดแบบสตาลิน โดยการประณามขุดคุ้ยความโหดร้ายของสตาลินในการพูดที่รู้จักในชื่อ "สุนทรพจน์ลับ" และมีความคิดที่จะอยู่ร่วมกันกับกลุ่มชาติตะวันตก ทางด้านจีน เหมา เจ๋อตง ซึ่งยังมีความคิดแบบเดียวกับลัทธิมากซ์-เลนินแบบสตาลิน โดยเฉพาะระบบนารวมและการเผชิญหน้ากับชาติตะวันตก (การปฏิวัติโลก)[2]