ฟุตบอลทีมชาติไอซ์แลนด์
From Wikipedia, the free encyclopedia
ฟุตบอลทีมชาติไอซ์แลนด์ (ไอซ์แลนด์: Íslenska karlalandsliðið í knattspyrnu) เป็นทีมฟุตบอลตัวแทนทีมชาติจากประเทศไอซ์แลนด์ ปัจจุบันอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของสมาคมฟุตบอลไอซ์แลนด์ (Knattspyrnusamband Íslands)[5]
ฉายา | Strákarnir okkar (เด็ก ๆ ของเรา) มนุษย์น้ำแข็ง (ฉายาในประเทศไทย) | ||
---|---|---|---|
สมาคม | สมาคมฟุตบอลไอซ์แลนด์ | ||
สมาพันธ์ | ยูฟ่า (ยุโรป) | ||
หัวหน้าผู้ฝึกสอน | ลาร์ส ลาเกอร์แบ็ก และเฮย์มีร์ ฮัตล์กริมซอน | ||
ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน | ว่าง | ||
กัปตัน | อารอน กึนนาร์ซอน | ||
รองกัปตัน | คอลเปตน์ ซิคโซร์ซอน | ||
ติดทีมชาติสูงสุด | รูนาร์ คริสตินซอน (104) | ||
ทำประตูสูงสุด | เอย์ดืร์ กวึดยอนแซน (26) | ||
สนามเหย้า | เลยการ์ตัลส์เวิตลืร์ | ||
รหัสฟีฟ่า | ISL | ||
| |||
อันดับฟีฟ่า | |||
อันดับปัจจุบัน | 72 1 (4 เมษายน 2024)[1] | ||
อันดับสูงสุด | 23 (กรกฎาคม 2015, กันยายน–ตุลาคม 2015) | ||
อันดับต่ำสุด | 131 (เมษายน–มิถุนายน 2012) | ||
เกมระดับนานาชาติครั้งแรก | |||
อย่างไม่เป็นทางการ: หมู่เกาะแฟโร 0–1 ไอซ์แลนด์ (หมู่เกาะแฟโร; 29 กรกฎาคม 1930)[2] อย่างเป็นทางการ: ไอซ์แลนด์ 0–3 เดนมาร์ก (เรคยาวิก, ไอซ์แลนด์; 17 กรกฎาคม 1946)[3] | |||
ชนะสูงสุด | |||
อย่างไม่เป็นทางการ: ไอซ์แลนด์ 9–0 หมู่เกาะแฟโร (แชปลาวีก, ไอซ์แลนด์; 10 กรกฎาคม 1985) อย่างเป็นทางการ: ไอซ์แลนด์ 5–0 มอลตา (เรคยาวิก, ไอซ์แลนด์; 27 กรกฎาคม 2000)[4] | |||
แพ้สูงสุด | |||
เดนมาร์ก 14–2 ไอซ์แลนด์ (โคเปนเฮเกน, เดนมาร์ก; 23 สิงหาคม 1967) | |||
ฟุตบอลโลก | |||
เข้าร่วม | 1 (ครั้งแรกใน 2018) | ||
ผลงานดีที่สุด | รอบแบ่งกลุ่ม 2018 | ||
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป | |||
เข้าร่วม | 1 (ครั้งแรกใน 2016) | ||
ผลงานดีที่สุด | รอบ 8 ทีมสุดท้าย |
โดยที่ไอซ์แลนด์เป็นประเทศขนาดเล็กในกลุ่มนอร์ดิกใกล้กับเขตอาร์กติกหรือขั้วโลกเหนือ มีขนาดพื้นที่พอ ๆ กับกรุงลอนดอน ประชากรมีราว 300,000 คน สภาพอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี แต่ร้อยละ 10 ของประชากรในชาติมีอาชีพเกี่ยวกับฟุตบอล เช่น ผู้ฝึกสอน โดยกระจายไปอยู่ตามสโมสรต่าง ๆ ของหลายประเทศ[6] และไอซ์แลนด์ไม่มีลีกฟุตบอลอาชีพเป็นของตนเอง
ไอซ์แลนด์เป็นทีมขนาดเล็ก ที่มีประวัติเคยผ่านเข้าเล่นรอบสุดท้ายของมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลระดับใหญ่เพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น นั่นคือ ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 หรือยูโร 2016 ที่ฝรั่งเศส ไอซ์แลนด์ได้สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าสู่การแข่งขันรอบสุดท้ายได้เป็นครั้งแรก โดยเอาชนะทีมใหญ่อย่างเนเธอร์แลนด์ไปได้ด้วย[7] โดยไอซ์แลนด์ได้กลายเป็นทีมที่น่าจับตามองในการแข่งขันคราวนี้ เนื่องจากเป็นทีมขนาดเล็กแต่กลับเล่นได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะในรอบที่สอง หรือรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สามารถเอาชนะอังกฤษมาได้ ก่อนที่รอบ 8 ทีมสุดท้ายหรือรอบก่อนรองชนะเลิศ ไอซ์แลนด์แพ้ต่อฝรั่งเศสซึ่งเป็นเจ้าภาพไป 5–2[8]
และอีกครั้ง ในฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพ ไอซ์แลนด์สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าไปเล่นได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ในฐานะที่เป็นแชมป์รอบคัดเลือกแถบยุโรป กลุ่มไอ ด้วยการมี 22 คะแนน จากทั้งหมด 10 นัด ซึ่งนับว่าเป็นการแข่งขันสำคัญ 2 ครั้งติดต่อกัน และยังสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นชาติที่มีขนาดเล็กที่สุดที่สามารถผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกได้ ด้วยการที่มีจำนวนประชากรทั้งประเทศประมาณ 3500,000 เท่านั้น ทั้งที่ผู้เล่นที่มีชื่อเสียงระดับโลกก็มีน้อยรายมาก เช่น เอย์ดืร์ กวึดยอนแซน ที่เคยเป็นกองหน้าในเชลซี สโมสรระดับชั้นนำในพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ หรือรายอื่น เช่น จิลวี ซีกืร์ดซอน ที่อยู่กับเอฟเวอร์ตันเท่านั้น และก่อนหน้านั้นในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล ก็เกือบจะได้เข้าร่วมแข่งขันในรอบสุดท้าย ทว่าไปพ่ายแพ้ต่อโครเอเชียเสียก่อน[9]