จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
กลุ่มบริษัทสื่อและความบันเทิงในประเทศไทย / From Wikipedia, the free encyclopedia
บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) (อังกฤษ : GMM Grammy Public Company Limited) เป็นบริษัทสื่อบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย[2][3][4][5] ก่อตั้งโดย ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม และเรวัต พุทธินันทน์ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2526 ในชื่อ บริษัท แกรมมี่ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
ตราสัญลักษณ์ที่เริ่มใช้ตั้งแต่ พ.ศ. 2544 | |
อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่เพลส (ตึกแกรมมี่) ย่านสุขุมวิท 21 (ถนนอโศกมนตรี) | |
ประเภท | บริษัทมหาชนจำกัด |
---|---|
การซื้อขาย | SET:GRAMMY |
อุตสาหกรรม | การบันเทิง |
ก่อตั้ง | 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2526 (40 ปี) |
ผู้ก่อตั้ง | เรวัต พุทธินันทน์ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม |
สำนักงานใหญ่ | อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส เลขที่ 50 ถนนอโศกมนตรี แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 |
บุคลากรหลัก |
|
ผลิตภัณฑ์ | สื่อบันเทิง ดนตรี เพลง คอนเสิร์ต โชว์บิซ งานการแสดง อีเวนท์ ละครเวที สตูดิโอ สื่อสิ่งพิมพ์ และ สถานีโทรทัศน์ |
รายได้ | 6,984 ล้านบาท (รายได้รวมปี พ.ศ. 2561) [1] |
บริษัทในเครือ |
|
เว็บไซต์ | www |
ในระยะแรก แกรมมี่ประกอบธุรกิจสร้างสรรค์ผลงานเพลงไทยสากลเป็นหลัก โดยออกอัลบั้มชุดแรก คือ นิยายรักจากก้อนเมฆ ของแพทย์หญิงพันทิวา สินรัชตานันท์ และผลิตรายการโทรทัศน์ 3 รายการ จากนั้นจึงเริ่มขยายกิจการเข้าสู่ธุรกิจบันเทิงอื่น ๆ เช่น วิทยุ ภาพยนตร์ คอนเสิร์ต การศึกษา สิ่งพิมพ์เผยแพร่ รวมทั้งธุรกิจร้านค้าปลีกเพื่อจัดจำหน่ายสินค้าต่าง ๆ เช่น ตลับเทป แผ่นเสียงจานแสง และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ ส่งผลให้บริษัทมีการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสื่ออย่างครบวงจร และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมบันเทิงของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2544
ในปี พ.ศ. 2566 จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้ปรับรูปแบบการประกอบธุรกิจเป็นการถือหุ้นในบริษัทอื่น โดยประกอบธุรกิจหลักจำนวน 3 กลุ่ม ผ่านบริษัทย่อยและบริษัทร่วมที่ประกอบธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจเพลง ผ่านบริษัทย่อย บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด (มหาชน), ธุรกิจสื่อ ผ่านกิจการร่วมค้า บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) และธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง ผ่านบริษัทย่อย บริษัท จีเอ็มเอ็ม โอ ช้อปปิ้ง จำกัด นอกจากนี้ยังมีธุรกิจเสริม เช่น ภาพยนตร์ (จีดีเอช) สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม (จีเอ็มเอ็ม แซท) และการลงทุนในบริษัทอื่น ๆ[6]