วิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557
From Wikipedia, the free encyclopedia
วิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557 เป็นวิกฤตการณ์การเมืองประเทศไทยที่เกิดขึ้นจากการประท้วงต่อต้านรัฐบาลตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2556 ถึงพฤษภาคม พ.ศ. 2557 จัดระเบียบโดย กปปส. กลุ่มผลประโยชน์ทางการเมืองซึ่งมีสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้นำ การประท้วงนี้ลงเอยด้วยนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ้นจากตำแหน่ง รัฐประหาร และการสถาปนาคณะทหารผู้ยึดอำนาจการปกครอง
บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
วิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557 | |||
---|---|---|---|
การชุมนุมที่ราชดำเนินเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556 | |||
วันที่ | 31 ตุลาคม 2556 – 22 พฤษภาคม 2557 (7 เดือน 22 วัน) | ||
สถานที่ | กรุงเทพมหานครและหลายจังหวัดของประเทศไทย | ||
สาเหตุ |
| ||
เป้าหมาย |
| ||
วิธีการ |
| ||
ผล |
| ||
คู่ขัดแย้ง | |||
| |||
ผู้นำ | |||
ความเสียหาย | |||
เสียชีวิต | 28[7] (ในวันที่ 16 พฤษภาคม 2557) | ||
บาดเจ็บ | 827[8] (จนถึง 26 พฤษภาคม 2557) | ||
ถูกจับกุม | 12[9][10] (จนถึง 16 มกราคม 2557) |
เป้าหมายหลักของการประท้วง คือ การขจัดอิทธิพลของอดีตนายกรัฐมนตรี พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร ในการเมืองไทย และการตั้ง "สภาประชาชน" ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเพื่อดูแลการปฏิรูประบบการเมือง[11] ผู้ประท้วงมองว่า พันตำรวจโททักษิณทุจริตอย่างมากและทำให้ประชาธิปไตยของประเทศไทยเสียหาย[12][13] แม้เขาได้รับการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเหนือ เนื่องจากโครงการสังคมปฏิรูปและนโยบายเศรษฐกิจของเขา พรรคการเมืองซึ่งเป็นพันธมิตรของพันตำรวจโททักษิณชนะการเลือกตั้งทุกครั้งตั้งแต่ปี 2544 นักวิเคราะห์และนักวิจารณ์ยังมองว่าประเด็นอื่น เช่น การสืบราชสันตติวงศ์[14][15][16] ความแตกแยกเมือง-ชนบทหรือเหนือ-ใต้[17][18] ความเหลื่อมล้ำทางสังคม[19] ระบบข้าราชการประจำที่รวมศูนย์เกินไป[20][21] อิทธิพลของพระมหากษัตริย์และทหารในการเมือง[22][23][24][25] และสถานภาพชนชั้นกลาง[26][27] เป็นปัจจัยเบื้องหลังวิกฤตการณ์นี้
การประท้วงมีสาเหตุมาจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้เสนอ ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ โดยเสนอในเดือนสิงหาคม 2556 ซึ่งจะนิรโทษกรรมความผิดของทุกฝ่ายย้อนหลังไปถึงปี 2547 แต่ถูกหลายฝ่ายคัดค้าน ฝ่ายหนึ่งมีสุเทพ เทือกสุบรรณและพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้นำ และอีกฝ่ายหนึ่งคือแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และคนเสื้อแดงบางส่วน ครั้นวันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 วุฒิสภาลงมติเป็นเอกฉันท์ไม่เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ทว่า การชุมนุมซึ่งนำโดยสุเทพยังคงดำเนินต่อไป โดยเปลี่ยนเงื่อนไขเป็นการต่อต้านรัฐบาลแทน อีกเหตุการณ์หนึ่ง รัฐสภาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มาของสมาชิกวุฒิสภา เพื่อให้สมาชิกวุฒิสภามาจากการเลือกตั้งทั้งหมด[2][28] พรรคประชาธิปัตย์ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า เป็นการให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองโดยไม่เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ[29] วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 ศาลวินิจฉัยตามนั้น พรรคเพื่อไทย ปฏิเสธคำวินิจฉัยนี้[30] ในวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556 นายกรัฐมนตรีขอถอนร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวคืนจากพระมหากษัตริย์[31]
ฝ่าย นปช. จัดชุมนุมตอบโต้ขึ้นที่ราชมังคลากีฬาสถานตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน ถึง 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556 ระหว่างนั้น ในวันที่ 25 พฤศจิกายน ผู้ชุมนุมฝ่ายสุเทพเข้ายึดสถานที่ราชการเพื่อบีบให้ปิดทำการ มีเหตุรุนแรงที่สำคัญคือ การปะทะกันบริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหงตลอดทั้งวันที่ 30 พฤศจิกายน ถึงเช้าวันที่ 1 ธันวาคม มีผู้เสียชีวิต 4 คน และบาดเจ็บ 57 คน[32][33] การยกระดับการชุมนุมในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556 ก่อให้เกิดการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมและตำรวจเป็นเวลาสองวัน ตำรวจใช้แก๊สน้ำตา และหัวฉีดน้ำ เพื่อยับยั้งไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าทำเนียบรัฐบาล มีผู้บาดเจ็บ 119 คน[34] จนวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2556 ตำรวจจึงเปิดให้ผู้ชุมนุมเข้าไปได้ เพื่อสงบศึกในวันเฉลิมพระชนมพรรษา จากนั้น ผู้ชุมนุมจึงชุมนุมกันต่อ ครั้นวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556 ส.ส. ประชาธิปัตย์ทั้ง 153 คนลาออก และในวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556 นายกรัฐมนตรียุบสภาผู้แทนราษฎร แล้วให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 แต่สุเทพและผู้ชุมนุมปฏิเสธการเลือกตั้ง และเรียกร้องให้จัดตั้งสภาประชาชนเสียก่อน กลุ่มผู้ประท้วงจึงถูกวิจารณ์ว่า เป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย [35][36]
วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2557 นายสุเทพนัดชุมนุมปิดถนนสายหลักในกรุงเทพมหานครเพื่อกดดันรัฐบาล[37][38] นำไปสู่การใช้ความรุนแรงและอาวุธเป็นระยะ ๆ[39][40][41][42]นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นำผู้ชุมนุมปิดกระทรวงพลังงาน ต่อมามีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต วันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2557 รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในกรุงเทพมหานครและพื้นที่โดยรอบ[43] วันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2557 กลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวกันขัดขวางการเลือกตั้งล่วงหน้าในกรุงเทพมหานครและภาคใต้ ทำให้การเลือกตั้งเสียระบบ[44] ผู้มีสิทธิเลือกตั้งราว 440,000 คนไม่สามารถออกเสียงลงคะแนนได้ อย่างไรก็ดี รัฐบาลยืนยันเมื่อวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2557 ว่า การเลือกตั้งต้องดำเนินตามกำหนดต่อไป ท้ายที่สุด มีผู้มาเลือกตั้งคิดเป็นร้อยละ 46.79[45][46]
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 สุเทพประกาศยุติการปิดถนนในกรุงเทพมหานครในวันที่ 3 มีนาคม และรวมเวทีการชุมนุมทั้งหมดไปอยู่ที่สวนลุมพินี[47] วันที่ 18 มีนาคม 2557 คณะรัฐมนตรีจึงยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และกลับไปใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ตั้งแต่วันรุ่งขึ้น[48]
วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2557 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ[49][50] แกนนำผู้ชุมนุมยืนยันว่า จะทำให้การเลือกตั้งครั้งใหม่ให้มีผลโมฆะ[51][52]
วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่ายิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีก 9 คน พ้นจากตำแหน่ง[53] วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 3 นาฬิกา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร[54] อีกสองวันต่อมา กองทัพรัฐประหารรัฐบาลรักษาการ และให้ผู้ชุมนุมสองฝ่ายยุติการชุมนุม
ลำดับเหตุการณ์สำคัญ | |
---|---|
4 พ.ย. 2556 | เริ่มชุมนุม |
11 พ.ย. 2556 | วุฒิสภาปฏิเสธร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ เป็นเอกฉันท์ |
20 พ.ย. 2556 | ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มาของสมาชิกวุฒิสภาขัดต่อรัฐธรรมนูญ |
25 พ.ย. 2556 | - ผู้ชุมนุมเริ่มบุดยึดสถานที่ราชการ - นายกรัฐมนตรีแถลงเพิ่มพื้นที่บังคับใช้ พ.ร.บ. มั่นคงฯ |
30 พ.ย. - 1 ธ.ค. 2556 | เกิดเหตุปะทะที่บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง |
1-3 ธ.ค. 2556 | เกิดเหตุปะทะใกล้ทำเนียบรัฐบาลและกองบัญชาการตำรวจนครบาล |
9 ธ.ค. 2556 | นายกรัฐมนตรียุบสภาผู้แทนราษฎร โดยจัดการเลือกตั้งใหม่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 |
26 ธ.ค. 2556 | เกิดการปะทะที่ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง |
17 ม.ค. 2557 | มีผู้ขว้างระเบิดลูกเกลี้ยง[55] ใส่ผู้ชุมนุมที่เดินขบวนถึงถนนบรรทัดทอง บาดเจ็บ 41 ราย[56] |
26 ม.ค. 2557 | วันเลือกตั้งล่วงหน้า - กปปส. ขัดขวางผู้ไปใช้สิทธิ - เกิดเหตุปะทะใกล้ที่เลือกตั้งล่วงหน้า แกนนำ กปท. ถูกยิงเสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บ 12 คน[57] |
2 ก.พ. 2557 | วันเลือกตั้งทั่วไป - ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตดินแดงชุมนุมประท้วงกลุ่ม กปปส. ที่ปิดเขตดินแดง[58] |
5 ก.พ. 2557 | ศาลอาญาอนุมัติหมายจับแกนนำ กปปส. 19 คน ข้อหาฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน[59] |
18 ก.พ. 2557 | ตำรวจและผู้ชุมนุมปะทะกันบริเวณแยกสะพานผ่านฟ้าลีลาศ มีผู้บาดเจ็บ 71 คน และเสียชีวิต 5 คน[60] |
21 มี.ค. 2557 | ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อ 2 ก.พ. ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ |
7 พ.ค. 2557 | ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอีก 9 คน พ้นจากตำแหน่ง[61] |
20 พ.ค. 2557 | กองทัพประกาศใช้กฎอัยการศึก |
22 พ.ค. 2557 | กองทัพรัฐประหาร; กปปส. และ นปช. ยุติการชุมนุม |
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งหรือเกี่ยวข้องกับ |
พรรคการเมืองที่เกี่ยวข้อง
|
องค์กร กลุ่มบุคคล ที่เกี่ยวข้อง
|
การเมืองไทย • ประวัติศาสตร์ไทย |