เบ-ลอ กุน
From Wikipedia, the free encyclopedia
เบ-ลอ กุน (นามแรกเกิด เบ-ลอ โกฮ์น; 20 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1886 – 29 สิงหาคม ค.ศ. 1938) เป็นนักการเมืองและนักปฏิวัติคอมมิวนิสต์ชาวฮังการี ผู้ซึ่งปกครองสาธารณรัฐโซเวียตฮังการีใน ค.ศ. 1919 หลังจากเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยฟรันทซ์โยเซ็ฟ ณ เมืองซิลาจแชฮ (ปัจจุบันอยู่ในประเทศโรมาเนีย) กุนได้ทำงานเป็นนักข่าว ต่อมาเขาได้รับใช้กองทัพออสเตรีย-ฮังการีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และถูกจับกุมตัวโดยกองทัพจักรวรรดิรัสเซีย ใน ค.ศ. 1916 หลังจากนั้นเขาถูกส่งตัวไปยังค่ายเชลยศึกบริเวณเทือกเขายูรัล ในช่วงเวลานี้เองที่กุนได้เปิดรับแนวคิดของคอมมิวนิสต์ และใน ค.ศ. 1918 เขาได้ก่อตั้งกลุ่มฮังการีของพรรคคอมมิวนิสต์รัสเซียในมอสโก ทำให้เขาเป็นเพื่อนสนิทกับวลาดีมีร์ เลนิน และร่วมต่อสู้กับเหล่าบอลเชวิคในสงครามกลางเมืองรัสเซีย
เบ-ลอ กุน | |
---|---|
เบ-ลอ กุน ใน ค.ศ. 1919 | |
กรรมการราษฎร ฝ่ายกิจการต่างประเทศโซเวียตฮังการี | |
ดำรงตำแหน่ง 12 มีนาคม – 1 สิงหาคม 1919 ดำรงตำแหน่งร่วมกับ โยแฌ็ฟ โปกาญและ เปแตร์ อาโก็ชโตน | |
ก่อนหน้า | แฟแร็นตส์ ฮอร์แรร์ |
ถัดไป | เปแตร์ อาโก็ชโตน |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 20 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1886(1886-02-20) แลล ราชอาณาจักรฮังการี (ปัจจุบันคือฮอด็อด โรมาเนีย) |
เสียชีวิต | 29 สิงหาคม ค.ศ. 1938(1938-08-29) (52 ปี)[1] สนามยิงเป้าคอมมูนาร์คา มอสโก รัสเซียโซเวียต สหภาพโซเวียต |
พรรคการเมือง | พรรคประชาธิปไตยสังคมนิยมฮังการี (MSZDP) พรรคคอมมิวนิสต์ฮังการี (KMP) |
คู่สมรส | อิเรน กาล |
บุตร | มิกโลช อากแนช |
บุพการี | ชอมู โกฮ์น โรซอ โกล์ดแบร์แกร์ |
ศิษย์เก่า | มหาวิทยาลัยฟรันทซ์โยเซ็ฟ |
วิชาชีพ | นักการเมือง นักข่าว |
ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1918 กุนได้เดินทางกลับฮังการีด้วยการสนับสนุนจากโซเวียต และจัดตั้งพรรคอมมิวนิสต์ฮังการี ด้วยการใช้กลวิธีต่าง ๆ ของเลนิน ทำให้เขาสามารถก่อกวนรัฐบาลของมิฮาย กาโรยี ได้อย่างดี และกุนยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากแม้ตัวเขาจะถูกคุมขังอยู่ก็ตาม หลังจากที่เขาได้รับการปล่อยตัวในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1918 กุนจึงกระทำการรัฐประหารได้สำเร็จ เขาได้ก่อตั้งรัฐบาลผสมคอมมิวนิสต์-ประชาธิปไตยสังคมนิยม และประกาศจัดตั้งสาธารณรัฐโซเวียตฮังการี แม้ว่าผู้นำทางนิตินัยของสาธารณรัฐจะเป็นประธานาธิบดีซานโดร์ กอร์บอยี แต่อำนาจที่แท้จริงอยู่ในมือของกุน ซึ่งเป็นกรรมการราษฎรฝ่ายกิจการต่างประเทศ เขายังคงติดต่อกับเลนินผ่านทางวิทยุโทรเลขและได้รับคำสั่งและคำแนะนำโดยตรงจากเครมลิน[2]
ระบอบการปกครองใหม่ที่พึ่งก่อตั้งขึ้นได้ล่มสลายภายในสี่เดือน เนื่องจากการรุกรานของโรมาเนีย และความไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งของหมู่ประชาชนชาวฮังการี กุนได้หลบหนีไปยังสหภาพโซเวียต ซึ่งเขาได้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่องค์การคอมมิวนิสต์สากล ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการปฏิวัติไครเมีย ตั้งแต่ ค.ศ. 1920 เขาจัดตั้งและเข้าไปมีส่วนร่วมในความน่าสะพรึงกลัวแดงในไครเมีย (ค.ศ. 1920–1921) ต่อมาเขาได้มีส่วนร่วมกับการจราจลเดือนมีนาคม ค.ศ. 1921 ในเยอรมนี แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ
ระหว่างการกวาดล้างใหญ่ช่วงปลายทศวรรษ 1930 กุนถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกทรอตสกี เขาถูกจับกุม สอบปากคำ และถูกประหารชีวิตอย่างรวบรัด ร่างของเขาได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้งโดยผู้นำโซเวียตใน ค.ศ. 1956 หลังจากการเสียชีวิตของโจเซฟ สตาลิน พร้อมกับการล้มล้างอิทธิพลของสตาลิน ภายใต้คำสั่งการของนีกีตา ครุชชอฟ